พรีเมียร์ลีกเดือดวันอาทิตย์ 5 ต.ค. 68 4  คู่สำคัญชิงชัย ขยับพื้นที่ยุโรปและหนีตกชั้น

สรุปความพร้อมก่อนเกมพรีเมียร์ลีกอังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 พบกับ 4  คู่สำคัญชิงชัย ขยับพื้นที่ยุโรปและหนีตกชั้น โดยคู่นำสายตาคือการบุกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่จะไปเยือน เบรนท์ฟอร์ด ส่วนในช่วงหัวค่ำ 20:00 น. มีเกมที่เดิมพันสูงหลายสนาม ทั้งศึกหนีตายและแย่งชิงโควตายุโรป ไม่ว่าจะเป็น เอฟเวอร์ตัน ปะทะ คริสตัล พาเลซ และ นิวคาสเซิล ดวล ฟอเรสต์ ใครจะเก็บสามแต้มสำคัญได้ในสัปดาห์นี้ ติดตามได้ที่นี่

สาลิกาดง นิวคาสเซิล พร้อมเปิดรังขย้ำ เจ้าป่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

สาลิกาดง นิวคาสเซิล พร้อมเปิดรังขย้ำ เจ้าป่า น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ที่ฟอร์มยังไม่เข้าที่ พรีวิว พรีเมียร์ลีก 5 ต.ค.

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 20:00 น. ตามเวลาประเทศไทย ณ สนาม เซนต์ เจมส์ พาร์ค เป็นการพบกันระหว่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับการมาเยือนของ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ในสถานการณ์ที่ทั้งสองทีมต่างต้องการชัยชนะเพื่อขยับอันดับบนตาราง

สภาพความพร้อมและฟอร์มล่าสุด

เจ้าบ้าน นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เพิ่งเรียกความมั่นใจกลับมาได้จากเกมยุโรป หลังบุกไปถล่มคู่แข่งขาดลอยในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก แม้ว่าผลงานในลีกช่วงหลังอาจจะไม่คงเส้นคงวามากนัก (ชนะ 1 เสมอ 3 แพ้ 2 จาก 6 นัดแรก) แต่การเล่นในบ้านที่ “เซนต์ เจมส์ พาร์ค” ยังคงเป็นจุดแข็งที่น่ากลัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพวกเขาได้กำลังใจจากชัยชนะครั้งล่าสุด การได้ เจค็อบ แรมซีย์ ที่หายเจ็บข้อเท้ากลับมามีชื่อในทีมอีกครั้งถือเป็นข่าวดีของกุนซืออย่าง เอ็ดดี้ ฮาว ส่วนผู้เล่นแนวรุกอย่าง นิค โวลเทอมาเด (Nick Woltemade) ก็กำลังอยู่ในฟอร์มที่ยอดเยี่ยม

ขณะที่ทีมเยือน น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ภายใต้การนำของกุนซือ แอนจ์ ปอสเตโคกลู กำลังเผชิญกับมรสุมอย่างหนัก พวกเขาไม่ชนะใครมา 8 นัดติดต่อกันในทุกรายการ (เสมอ 3 แพ้ 5) และฟอร์มในลีกก็ยังไม่น่าประทับใจ (ชนะ 1 เสมอ 2 แพ้ 3 จาก 6 นัดแรก) ความพ่ายแพ้ในยูโรป้า ลีก เมื่อกลางสัปดาห์ยิ่งตอกย้ำถึงปัญหาของทีม นอกจากฟอร์มที่ตกต่ำแล้ว พวกเขายังประสบปัญหาผู้เล่นบาดเจ็บหลายคน โดยเฉพาะในแนวรับ ทำให้การมาเยือนถิ่นสาลิกาดงในครั้งนี้ถือเป็นบททดสอบที่หนักอึ้งอย่างยิ่ง

สถิติการพบกันที่น่าสนใจ (Head-to-Head)

จากสถิติที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่า นิวคาสเซิล มีสถิติที่ดีกว่าอย่างชัดเจนในการพบกับ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเล่นในบ้าน:

  • รวม 80 นัด:
    • นิวคาสเซิล ชนะ: 37 ครั้ง (ยิงได้ 127 ประตู)
    • เสมอ: 19 ครั้ง
    • น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ชนะ: 23 ครั้ง (ยิงได้ 98 ประตู)
  • นิวคาสเซิล ชนะถึง 6 จาก 7 ครั้งหลังสุดที่พบกันในลีก (แพ้ 1 ครั้ง) และชนะ 3 นัดติดต่อกันล่าสุด
  • ฟอเรสต์มีสถิติที่ไม่ดีนักเมื่อมาเยือนเซนต์ เจมส์ พาร์ค โดยแพ้ถึง 8 จาก 9 ครั้งหลังสุดที่มาเยือน

บทวิเคราะห์และผลการแข่งขันที่คาดการณ์

จากฟอร์มปัจจุบันและสถิติการพบกันที่ผ่านมา นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีความได้เปรียบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเล่นในบ้าน ความมั่นใจจากชัยชนะในเกมยุโรป และสภาพทีมที่ค่อนข้างสมบูรณ์กว่า ในขณะที่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ มีปัญหาเรื่องฟอร์มการเล่น ความล้าของนักเตะ และการขาดผู้เล่นคนสำคัญในแนวรับ

ทีมสาลิกาดงน่าจะใช้ความได้เปรียบเรื่องเกมรุกที่หลากหลายและความแข็งแกร่งในบ้านเปิดเกมบุกเข้าใส่ตั้งแต่ต้นเกม และน่าจะสามารถสร้างโอกาสทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนฟอเรสต์อาจจะต้องเน้นตั้งรับและรอจังหวะโต้กลับ ซึ่งคาดว่าอาจจะต้านทานเกมรุกของเจ้าบ้านไว้ได้ยาก

ผลการแข่งขันที่คาด: นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด น่าจะเปิดบ้านเอาชนะไปได้

สกอร์ที่คาด: นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ชนะ 2-0 หรือ 3-1

เอฟเวอร์ตัน ปะทะ คริสตัล พาเลซ

พรีวิวพรีเมียร์ลีก เอฟเวอร์ตัน ปะทะ คริสตัล พาเลซ – ศึกแห่งสถิติและฟอร์มปัจจุบัน

การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7 ประจำฤดูกาล 2025/26 เป็นการพบกันระหว่าง เอฟเวอร์ตัน เปิดบ้านที่สนาม ฮิลล์ ดิคคินสัน สเตเดี้ยม (Hill Dickinson Stadium) รับการมาเยือนของ คริสตัล พาเลซ ในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 20:00 น. (ตามเวลาประเทศไทย)

สถิติที่น่าสนใจก่อนเกม (Head-to-Head)

แม้ว่าฟอร์มปัจจุบันของ คริสตัล พาเลซ จะร้อนแรง แต่สถิติการพบกันในอดีตยังคงเข้าทาง เอฟเวอร์ตัน อย่างชัดเจน โดยเฉพาะเมื่อเล่นในบ้าน

  • สถิติรวม (53 นัด): เอฟเวอร์ตัน ชนะ 23 นัด / เสมอ 18 นัด / คริสตัล พาเลซ ชนะ 12 นัด
  • ประตูรวม: เอฟเวอร์ตัน ยิงได้ 79 ประตู / คริสตัล พาเลซ ยิงได้ 54 ประตู
  • ผลงานล่าสุด: เอฟเวอร์ตัน มักจะทำได้ดีกว่า โดยพวกเขาชนะ พาเลซ ในเกมลีก 2 นัดล่าสุดด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งเหย้าและเยือน (ข้อมูลอ้างอิงจากฤดูกาล 2024/25) และสถิติระบุว่า เอฟเวอร์ตัน ไม่แพ้ คริสตัล พาเลซ ในการพบกัน 9 นัดหลังสุด

ฟอร์มปัจจุบันของทั้งสองทีม

คริสตัล พาเลซ ภายใต้การคุมทีมของ โอลิเวอร์ กลาสเนอร์ กำลังอยู่ในช่วงที่ยอดเยี่ยม โดยพวกเขาไม่แพ้ใครมาแล้วถึง 19 นัด ในทุกรายการ และทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในเกมลีก ด้วยการเอาชนะทีมใหญ่อย่างลิเวอร์พูลและเวสต์แฮม ยูไนเต็ด มาได้ ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่มีฟอร์มดีที่สุดทีมหนึ่งในลีกเวลานี้

ส่วน เอฟเวอร์ตัน มีผลงานที่ค่อนข้างคงที่เมื่อเล่นในบ้าน แต่ฟอร์มโดยรวมในช่วงหลังยังไม่สม่ำเสมอ โดยพวกเขาไม่ชนะใครมา 4 นัดติดต่อกัน (ในทุกรายการก่อนเกมนี้) แต่ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นทีมที่เหนียวแน่นและแข็งแกร่งเมื่อเล่นในบ้านหลังใหม่

บทวิเคราะห์และการทำนายผล

เกมนี้เป็นการปะทะกันระหว่าง “สถิติที่เข้าทางเจ้าบ้าน” กับ “ฟอร์มปัจจุบันที่ร้อนแรงของทีมเยือน”

แม้ว่าเอฟเวอร์ตันจะมีสถิติ Head-to-Head ที่เหนือกว่าอย่างมาก และมักจะเล่นได้ดีในบ้าน แต่ฟอร์มการเล่นที่คงเส้นคงวาและการเข้าทำที่หลากหลายของคริสตัล พาเลซ ในช่วงนี้ ทำให้พวกเขาถูกยกให้เป็นทีมที่น่ากลัวกว่า

อย่างไรก็ตาม คริสตัล พาเลซ เพิ่งลงเล่นเกมยุโรปในกลางสัปดาห์ ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพความฟิตของนักเตะบางส่วน ขณะที่เอฟเวอร์ตันที่ได้พักเต็มที่กว่าจะใช้ความได้เปรียบนี้ผนวกกับความเหนียวแน่นในบ้านเพื่อยันผลการแข่งขัน

ด้วยศักยภาพในเกมรุกที่จัดจ้านและเกมรับที่แข็งแกร่งของทีมเยือน แต่มีประเด็นเรื่องความเหนื่อยล้าจากการเล่นบอลยุโรป ทำให้การแข่งขันน่าจะออกมาสูสีและมีโอกาสจบลงด้วยสกอร์ไม่ห่าง

ผู้ชนะที่คาดการณ์: คริสตัล พาเลซ

สกอร์ที่คาดการณ์: เอฟเวอร์ตัน 1 – 2 คริสตัล พาเลซ

แอสตัน วิลล่า ดวล เบิร์นลีย์

ศึกแห่งการเรียกความมั่นใจ แอสตัน วิลล่า ดวล เบิร์นลีย์ ที่วิลล่า พาร์ค

แอสตัน วิลล่า เตรียมเปิดรังเหย้า วิลล่า พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ เบิร์นลีย์ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7 ในวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2025 เวลา 20:00 น. ตามเวลาประเทศไทย (14:00 น. BST) ถือเป็นแมตช์สำคัญสำหรับทั้งสองทีม โดยเฉพาะ เบิร์นลีย์ ที่ต้องการแต้มเพื่อหนีโซนตกชั้น

ผลงานการพบกันที่ผ่านมา (Head-to-Head)

ตามสถิติการพบกันทั้งหมดระหว่างสองทีมนี้ที่ท่านได้ให้ข้อมูลมา ชี้ให้เห็นว่าทั้งคู่มีความสูสีกันอย่างมาก:

  • แอสตัน วิลล่า ชนะ: 30 ครั้ง
  • เบิร์นลีย์ ชนะ: 30 ครั้ง
  • เสมอ: 21 ครั้ง
  • ประตูรวม: แอสตัน วิลล่า ยิงได้ 133 ประตู, เบิร์นลีย์ ยิงได้ 126 ประตู

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาจากผลงานการพบกันใน พรีเมียร์ลีก 5 นัดหลังสุด จะเห็นว่า แอสตัน วิลล่า มีผลงานที่ดีกว่า โดยชนะ 3 ครั้ง เสมอ 1 ครั้ง และแพ้ 1 ครั้ง (ชัยชนะของเบิร์นลีย์เกิดขึ้นเมื่อเดือนมกราคม 2021) การพบกันครั้งล่าสุดเมื่อเดือนธันวาคม 2023 ที่วิลล่า พาร์ค เป็น แอสตัน วิลล่า ที่เฉือนชนะไป 3-2

ฟอร์มปัจจุบันและภาพรวมของทีม

แอสตัน วิลล่า ภายใต้การนำของ อูไน เอเมรี่ กำลังอยู่ในช่วงเรียกฟอร์มที่ดีกลับมา หลังจากออกสตาร์ทฤดูกาลไม่ดีนัก แต่ล่าสุดพวกเขาเก็บชัยชนะได้ 3 นัดติดต่อกันรวมทุกรายการ โดยเฉพาะฟอร์มในบ้านที่ วิลล่า พาร์ค นั้นถือเป็นจุดแข็งสำคัญของทีมในช่วงปีที่ผ่านมา

เบิร์นลีย์ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมา ยังคงต้องปรับตัวกับลีกสูงสุด พวกเขาอยู่ในโซนตกชั้น (อันดับ 18) และมีปัญหาเรื่องเกมรับที่เสียไปถึง 13 ประตูจาก 6 นัดแรก นอกจากนี้ สถิติการเล่นนอกบ้านของพวกเขาก็ย่ำแย่ โดยแพ้มา 4 นัดติดต่อกันในการเล่นเป็นทีมเยือนในพรีเมียร์ลีก

จากปัจจัยเรื่องฟอร์มปัจจุบัน โดยเฉพาะฟอร์มในบ้านที่แข็งแกร่งของ แอสตัน วิลล่า และปัญหาเกมรับกับสถิตินอกบ้านที่น่ากังวลของ เบิร์นลีย์ ทำให้เจ้าบ้านดูมีภาษีดีกว่าอย่างชัดเจน แม้ว่า เบิร์นลีย์ จะมีความพยายามในการเล่นเกมโต้กลับและมี ไลล์ ฟอสเตอร์ เป็นตัวอันตรายในแดนหน้า แต่ความแน่นอนและคุณภาพของผู้เล่นโดยรวมของวิลล่าในบ้านน่าจะทำให้พวกเขาเก็บชัยชนะไปได้

คาดการณ์ผู้ชนะ: แอสตัน วิลล่า

คาดการณ์สกอร์: แอสตัน วิลล่า ชนะ 2-1

เบรนท์ฟอร์ด ลุ้นดับเบิ้ลแมน

เบรนท์ฟอร์ด ลุ้นดับเบิ้ลแมนคู่อริ ปะทะ แมนซิตี้ (5 ต.ค. 2568 เวลา 22:30 น.)

เบรนท์ฟอร์ด เตรียมเปิดรัง Gtech Community Stadium ต้อนรับการมาเยือนของแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดที่ 7 คืนวันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม 2568 เวลา 22:30 น. ตามเวลาประเทศไทย นี่คือบทพิสูจน์ครั้งสำคัญของทัพ “ผึ้งพิฆาต” หลังจากเพิ่งเปิดบ้านโค่น แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้อย่างสวยงามเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ผลงานการพบกันล่าสุด (Head-to-Head)

จากการรวบรวมข้อมูลการพบกันทั้งหมดระหว่าง เบรนท์ฟอร์ด และ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในทุกรายการ มีสถิติเป็นดังนี้:

  • จำนวนนัดที่พบกันทั้งหมด: 21 นัด (ข้อมูลบางแหล่งระบุ 14 นัดในยุคหลัง)
  • เบรนท์ฟอร์ด ชนะ: 7 ครั้ง
  • เสมอ: 2 ครั้ง
  • แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ: 12 ครั้ง
  • ประตูรวม: เบรนท์ฟอร์ด ยิงได้ 15 ประตู (ตามที่คุณระบุ) / แมนฯ ซิตี้ ยิงได้ 30 ประตู (ตามข้อมูลรวมทั้งหมด)

ผลงานการพบกันในระยะหลัง (5 นัดล่าสุด):

ใน 5 นัดหลังสุด ถือว่าสูสีและเป็นทาง แมนฯ ซิตี้ ที่ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย โดยเก็บชัยไป 3 นัด เสมอ 1 นัด และ เบรนท์ฟอร์ด ชนะ 1 นัด (รวมผลเสมอ 2-2 ในการเจอกันล่าสุดในเดือน ม.ค. 2025)

วิเคราะห์รูปเกมและฟอร์มล่าสุด

เบรนท์ฟอร์ด กำลังอยู่ในช่วงที่มั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมกับการเล่นในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่พวกเขาแสดง “พิษสง” เอาชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาได้ถึง 3-1 ทำให้พวกเขาลุ้นทำสถิติสุดพิเศษด้วยการเอาชนะทั้งสองทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ได้ติดต่อกัน แม้จะมีการเปลี่ยนแปลงโค้ชและขายผู้เล่นหลักไปบ้าง แต่เกมรุกของพวกเขายังคงอันตราย โดยเฉพาะ อิกอร์ ธิอาโก้ ที่กำลังเข้าฟอร์มสุด ๆ

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะยังคงเป็นทีมเต็ง แต่ก็มีสะดุดไปบ้างในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะในเกมเยือนที่พวกเขาเคยแพ้ให้กับไบรท์ตันและสเปอร์สมาแล้ว อย่างไรก็ตาม พวกเขาเพิ่งโชว์ฟอร์มโหดถล่มเบิร์นลีย์ 5-1 และมีแนวรุกที่น่ากลัวที่สุดในลีก นำโดย เออร์ลิง ฮาลันด์ ที่อยู่ในช่วงฟอร์มสุดยอด ยิงไปแล้วถึง 8 ประตูในลีก และมีฟิล โฟเด้น กับ เฌเรมี่ โดกู คอยสนับสนุน

ปัจจัยสำคัญ:

  • ความได้เปรียบในบ้านของเบรนท์ฟอร์ด: พวกเขาเป็นทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่ง และมักสร้างปัญหาให้กับทีมใหญ่ได้เสมอ
  • ความเฉียบคมในเกมรุกของแมนฯ ซิตี้: แม้จะเล่นเกมเยือน แต่คุณภาพผู้เล่นของ “เรือใบสีฟ้า” นั้นเหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะฮาลันด์ที่พร้อมทำประตูได้ตลอดเวลา
  • ความเหนื่อยล้าของแมนฯ ซิตี้: ทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เพิ่งลงเล่นเกมยุโรปมากลางสัปดาห์ ทำให้โอกาสที่ผู้เล่นตัวหลักจะอ่อนล้ามีสูง ซึ่งเป็นโอกาสให้เบรนท์ฟอร์ดได้เปรียบในการเล่นเกมโต้กลับเร็ว

แม้ว่าเบรนท์ฟอร์ดจะสร้างความประหลาดใจได้บ่อยครั้งและมีขุมกำลังที่ลงตัวในการเล่นเกมเหย้า แต่ด้วยคุณภาพโดยรวมและแรงจูงใจในการไล่ล่าคะแนนเพื่อลุ้นแชมป์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทำให้พวกเขายังคงเป็นทีมเต็งที่จะคว้าชัยชนะในเกมนี้

ทีมที่คาดว่าจะชนะ: แมนเชสเตอร์ ซิตี้

สกอร์ที่คาดการณ์: เบรนท์ฟอร์ด 1 – 2 แมนเชสเตอร์ ซิตี้

อย่าพลาด มาทายผลบอลพรีเมียร์ลีกกับเรา เกมมันส์ขนาดนี้ จะดูเฉยๆ ได้ยังไง? มาร่วมลุ้นและเดิมพันกับทีมรักของคุณได้ที่เว็บของเรา Ballsodpantip พร้อมอัตราต่อรองที่ดีที่สุด สมัครเลย

คำถามที่พบบ่อย

คู่เอกที่น่าจับตามองที่สุดคือ เบรนท์ฟอร์ด เปิดบ้านพบกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเวลา 22:30 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ซึ่งแมนฯ ซิตี้ ต้องการชัยชนะเพื่อขยับอันดับในตารางคะแนน

มีการแข่งขันพร้อมกัน 4 คู่ ได้แก่ วูล์ฟแฮมป์ตัน vs ไบรท์ตัน, แอสตัน วิลล่า vs เบิร์นลีย์, เอฟเวอร์ตัน vs คริสตัล พาเลซ และ นิวคาสเซิ่ล vs น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

จากผลการแข่งขันในคืนวันเสาร์ (3-4 ต.ค.) อาร์เซนอล ได้แซงขึ้นเป็นจ่าฝูง หลัง ลิเวอร์พูล บุกไปแพ้ เชลซี 2-1 ทำให้สถานการณ์การลุ้นแชมป์ยิ่งเข้มข้นขึ้น